วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2560

Volume 1 Chapter 4

Evolution Theory of the Hunter (ETH)
Volume 1 Chapter 4
“ดังนั้นคุณจะบอกว่าของที่ดรอปลงมานั้นเป็นของคุณ? สำหรับชาวบ้านโง่ๆนี่นะ.”
ชายกล่าวเหมือนกับว่าเขาขี้เกียจอธิบาย. มันดูเหมือนว่าเขาต้องการที่จะขอความคิดเห็นจากคนอื่นรอบๆในการปล่อยมือออกจากสิ่งนี้.แต่มันก็เป็นกฎที่เหล่านักล่ายึดถือกัน.
สำหรับพวกเขาที่มีไอเทมระดับ5 ผมมั่นใจว่าพวกเขาไม่ต้องการสิ่งที่จะดรอปลงมานี้แม้ว่ามันอาจจะดรอปลงมาสองชิ้น. นกรณีนี้ของที่ดรอปลงมาอาจจะเป็นโมนาไซด์หรือบลาสนาสไซค์(แร่2ชิ้นนี้มีจริงนะmonaziteกับbastnazite). ถึงแม้ว่ามันจะมีความแตกต่างกันด้านน้ำหนักแต่มันก็ขายได้อย่างน้อย1,000ดอลล่า.
แน่นอนว่าหลังจากดูรูปลักษณ์มอนเตอร์แล้วมันก็เหมือนกับว่ามันเป็นมอนเตอร์ระดับ4เพราะฉะนั้นของที่มันจะดรอปลงมานั้นอาจจะมีมูลค่ามากกว่า.แต่มันอาจจะมีค่ามากถึง10,000ดอลล่าและมีโอกาศเป็นศูนย์ที่พวกเขาจะไม่สนใจสิ่งของเหล่านี้.
“ฉันเป็นนักเปิดวาร์ปนั่นคือเหตุผลที่ฉันรู้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้.”
“หืม..มันก็ถูกของนาย? แต่ไม่มีพยานว่าคุณเป็นคนฆ่ามันตอนนั้น?”
“ถ้าคุณไม่เชื่อคุณจะเปิดกล้องวงจรปิดดูไหม?บางทีคุณอาจจะเห็นมันจากกล่องดำของรถด้วย,”
“อ่า แล้วไง?”
ชายพูดด้วยความสงสารและหันไปรอบๆร่างของมอนเตอร์กำลังจะหายไปแล้ว.
“ไปกันเถอะ ตำรวจจะมาที่นี่แล้ว ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาล้อเล่นแล้วนะ.”
หญิงสาวพูด.ผมได้เห็นเสื้อผ้าปกติของเธอภายใต้เกราะหนังนี่หมายความว่าเกราะนี้เป็นประเภทอัญเชิญ.จากที่ผมได้ยินมา ราคาของสกิลเหล่านี้มีมูลค่าอย่างน้อย100ล้านดอลล่า ให้ตายสิ!.มันทำให้คิดได้เลยว่าพ่อแม่ของเขาเป็นคนประเภทไหนกันนะที่ให้เงินมากมายขนาดนี้กับเหล่าเด็กๆเหล่านี้.
“เดี๋ยว มาทางนี้อย่างน้อยเราก็กำลังจะได้เห็นไอเทมดรอปลงมาก่อนที่จะไป.”
“งั้นคุณจะขโมยถ้ามันมีราคาแพง?”
ริมฝีปากของเธอบิดเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ชอบการกระทำนี้เท่าไรแต่ชายหนุ่มไม่สนใจ.
“แม้ว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ฉันบอกได้เลยว่าฉันไม่สนใจสิ่งของที่ต่ำกว่าฉัน ฉันแค่อยากรู้อะไรสักหน่อย.หวังว่าความสงสัยเหล่านี้จะลดลงนะคุณชาวบ้านเปิดวาร์ป.”
“ทำในสิ่งที่คุณต้องการ.”
ฟังจากการพูดของสองนักล่านั้นแล้วผมรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยและจ้องไปยังศพมอนเตอร์.ในขณะที่ชายแต่งตัวประหลาดนั่นก็ยังไม่สามารถรบกวนจิตใจของผมได้.ถ้าเป็นไปได้ผมหวังว่าของที่ดรอปลงมาจะมีราคาถูก.
“ดูนั่น. ชาวบ้าน.จะอย่างไรก็แล้วแต่ผมคิดว่านี่คือบุพเพท์เรามาแนะนำตัวกันดีกว่า.ผมชื่อสตอม สตอมฮาน คิมบัม. ผู้หญิงคนนั้นชื่อว่า เซตติ้งมูนสวอด คิมโซลอึน.”
คำว่าชาวบ้านมันก็เหมือนกับสิ่งเรียกทั่วๆไปแต่ทุกครั้งที่เขาพูดมันเหมือนกับว่าเขากำลังด่าผม.
“จียอน ซังมิน นักเปิดวาร์ปเวล2.”
“โห? จริงดิ? นั่นหมายความว่าคุณมีสกิลบางอย่าง.หากคุณเป็นนักเปิดวาร์ปเวล2ได้ตอนอายุเท่านี้แสดงว่าคุณต้องเยี่ยมมากแน่ๆ?”
แม้ว่าผมจะดีเหมือนที่เขาว่าแต่ยังไงซะผมก้เทียบกับเวล5ไม่ได้หรอนะ.
“อ่า อ่า.ไม่ต้องมองผมแบบนั้น.เคร่งเครียดไปได้.เรารู้ว่าเราทั้งสองเป็นน่าล่าและคุณก็เป็นแค่คนเปิดวาร์ปโลกของเราค่อนข้างแตกต่างกันอย่างสิ้งเชิง อ่า. ใครจะรู้. บางทีถ้าคุณทำงานอย่างหนักเป็นเวลา 10 ปีแล้วคุณก็อาจจะสามารถที่จะเข้าไปในดันเจี้ยนกับผม คุณอาจจะรู้ได้ว่านักล่าบางทีก็ไม่ต่างจากคนเปิดวาร์ป แต่ผมต่างออกไป.นั่นเพราะถ้าไม่มีใครอยู่ข้างหลังผมต่อให้ได้รับทุกสิ่งที่สวยงามมันก็เท่านั้น คุณก็เห็น?”
“ขอบคุณสำหรับข้อคิดเห็นสำหรับผม แต่ผมก็ไม่เคยคิดเกี่ยวกับการลงดันเจี้ยนระดับ5 ผมมีชีวิตเดียว.”
“ผมพูดว่าผมระดับ5?”
“ผมเดาเอานะครับ ไอเทมระดับ5แทบจะอยู่ชั้นสูงสุดแล้วและคุณก็ไม่กลัวมอนเตอร์เลเวล4 ผมคิดว่าอย่างน้อยคุณก็ต้อวเลเวล5.”
“ตาดีเหมือนกันนะเนี่ย แต่ผมอาจจะเลเวล6ก็ได้ ไม่หรอ?”
“หากคุณอยู่ในระดับนี้ คุณจะต้องเตรียมพร้มตลอดเพื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝัน.”
“ผมเห็นด้วย คุณทั้งสวยทั้งหล่อ.”
“บางทีคุณสามารถบอกเราตรงๆได้.”
ผมเดาถูกด้วย ดีแค่ไหนที่ไม่แสดงความดีใจ.และหลังจากที่ผังชายคนนั้นแล้วเขาอายุน้อยกว่าผมอีกด้วย....ซี๊ดด.
ความจริงก็คือไม่มีใครเคยเปิดวาร์ปได้มากกว่าเลเวล4.โดยไม่ต้องใช้สกิลอะไร คุณจะไม่มีทางที่จะมีชีวิตรอดได้ถ้าคุณสู้กับมอนเตอร์เวล4.ไม่มีทางที่เหล่านักล่าจะไม่ก่นด่าหากเข้าไปสู้กับมอนเตอร์ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยทางออกที่ดีที่สุดคือการไม่ทำอะไรเกินตัวและเหนือสิ่งอื่นใดพวกเขาต้องการนักเปิดวาร์ปอยู่ดีหากเหล่านักล่าอยากจะรอดชีวิต.
นั่นก็เพราะไม่มีใครที่จะเข้าไปในดันเจี้ยนระดับ4เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ผมหมายความว่าพวกเขาคงไม่เข้าไปในดันเจี้ยนกันเพื่อไปสนุกสนานหรอกใช่มั๊ยหากใครพูดแบบนั้นแสดงว่าเขากำลังโกหกเราแล้ว.ตอนนี้สิ่งที่ผมคิดเกี่ยวกับมันเหล่าบุคคลที่เข้าสู่ดันเจี้ยนเลเวล4นั้นส่วนใหญ่จะมีสกิลที่หายากไม่ก็พวกเขาไปก็เพราะหลีกเลี่ยงความแออัดจากการล่าเหล่ามอนเตอร์.
แม้ว่าจะอันตรายดังนั้นพวกเขาถึงไม่ให้เหล่านักเปิดวาร์ปหรือพนักงานยกกระเป๋าเข้าไปสู่ดันเจี้ยนเวล4.แต่กฎนี้จะบังคับเขาได้ต่อเมื่อพวกเขาทำตามเท่านั้น.มีหลายคนที่ไม่ทำตามและผมก็จะได้ยินบ่อยครั้งมากที่นักเปิดวาร์ปตายในดันเจี้ยน..ซึ่งผมค่อนข้างสงสัยจริงๆถึงความเข้มงวดของกฎหมาย.
“เยี่ยม แล้วในกรณีนี้…”
คิมบัมเพียงยักไหล่และหันไปมองร่างกายของมอนเตอร์ที่ตอนนี้กำลังจะหายไป ผมปัดฝุ่นบนร่างก่อนที่จะขึ้นไป.
“คุณคิดจะไปไหน?”
“แทนที่จะนั่งอยู่เฉยๆผมจะไปช่วยเหลือผู้คนที่อาจจะยังมีชีวิตอยู่.”
ผมขี้ไปยังผู้คนที่ติดอยู่ในรถ.มีรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุประมาณ7คัน.มีคนเพียง4คนเท่านั้นที่ยังรอดและอ่อนแรงในพวกเขาทั้งหมดมีคนที่ขับรถชนผมตอนแรกอยู่ด้วยและรถของเขาเหล่านั้นก็พังไม่มีชิ้นดี.
“ฉันเห็น. มีความสุข.”
“คุณจะไม่ช่วยเขาหรอ?”
“ผม? ทำไม?”
“ผมต้องการให้ช่วย.”
คิมโซวอนเดินออกมาข้างหน้า ผมพยักหน้าขอบคุณและเดินไปกับเธอเพื่อช่วยคนขับรถที่ติดอยู่ข้างใน.ไม่มีใครบาดเจ็บร้ายแรงพวกเขาต้องขอบคุณถุงลมนิรภัยเป็นอย่างยิ่งที่ทำให้พวกเขาไม่เป็นอะไรมาก.ไม่งั้นมันอาจจะเลวร้ายกว่านี้.
“ว้าย ขอบคุณมาก มันดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่เป็นอะไรมากนัก อย่าวไรก็ตามพวกเขาสมควรตรวจเช็คที่โรงพยาบาลอีกที.”
ผมทำอีกครั้งกับการ “ขอบคุณ”ต่อคิมซูวอน.การที่นักล่าทำแบบเป็นอะไรที่หายากมาก. อาจเป็นเพราะว่าเขามันจะได้รับการปฎิบัติจากชาวบ้านดังตัวตนอันสูงส่ง ผมสามารถพูดได้ว่าผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน.
หลังจากที่ส่งพวกเขารอขึ้นรถโรงบาลหมดแล้วผมก็กลับไปที่รถบรรทุก.มันดูเหมือนกว่ามอนเตอร์จะใช้เวลนานมากกว่าจะหายไป.ผมนั่งอยู่บนก้อนหินในบริเวณใกล้ๆและเป้าดูมอนเตอร์หายไป.ในเวลานั้นรถโรงบาลก็มาพอดี.แต่เสียงไซเรนของตำรวจตอนแรกนั้นยังมาไม่ถึง.
“อะไร?นั่นหนังสือสกิล?”
คิมบัมได้พูดออกมา.
อะไรนะ?
ผมกระโดดจากที่นั่งด้วยความตกใจ อะไรคือสิ่งที่ดรอปหลังจากมอนเตอร์หาย หนังสือสกิลนั่นมันคงเป็นไปได้อย่ามาก.ไม่มีคำอื่น มันคือหนังสือสกิลแน่นอน...ดูจากปกของมันแล้ว ดูจากสันหนังสือที่มีความสวยงามเป็นอย่างมากมันคือหนังสือสกิลอย่างแท้จริง-ปกที่สะท้อนแสงเหล่านั้น.
“โฮ่ โฮ่ ย่าห์ ดูนี่?”
คิมบัมคว้าหลังสือเร็วกว่าผม.มันเป็นความโล่งอกหลังจากที่ได้รับหนังสือเหล่านั้นหากมันเป็นสกิลที่ดีเยี่ยม.และแน่นอนว่านี่คือหนังสือสกิลแน่นอนเขาคงไม่อ่านไปเพื่อที่จะได้ทักษะที่เขาไม่ชำนาญ.
คิมบัมมองมาที่ผมก่อนจะพูด.
“ไอ้นี่ เขาคงไม่คิดว่าเขาจะมีโชคขนาดนี้? อาจจะทั้งชีวิตที่เขาจะได้หนังสือสกิลสักครั้ง…”
เขาเลียริมฝีปากเหมือนกับว่าเขาจะฆ่าผม. ผมเดินเข้าไปหาเขาพร้อมกับยื่นมือออกไป.
ผมได้เห็นริมฝีปากที่โค้งขึ้นอย่างโหดเหี้ยม.
“อะไร?คุณต้องการมัน? เยี่ยม.คุณไม่บอกว่ามันเป็นของคุณหรอ? แล้วเอามันไป.”
หลังจากที่เขาพูด เขาก็ได้ยื่นสกิลบุ๊คมาให้ผม อย่างไรก็แล้วแต่เมื่อผมกำลังยื่นมือออกไปเขาก็หดมือกลับอย่างรวเร็ว.
“เร็วๆ? ผมแค่อยากจะข้างในของหนังสือไวๆ.”
“ไม่เอาน่า ให้เขาไปมันเป็นสิ่งที่คุณไม่ต้องการอยู่แล้ว.”
โซอึนบอก.ไม่เพียงแต่เธอสวยแล้วหัวใจของเธอก็เป็นดั่งนางฟ้า.ที่รัก. ผมหันไปมองเธอ.เธออาจจะเห็นความสิ้นหวังจากหน้าของผม เธอถอนหายใจและเดินไปทางคู่หูของเธอ.
“ราคาเท่าไร?”
“ห๊ะ...เดี๋ยว.”
คิมบัมเปิดไปยังหน้าถัดไป.จากเสียงหัวเราะของเขาถูกแทนที่ด้วยการแสดงออกอย่างจริงจัง มองจากการกระทำนั้นมันอาจจะเป็นสกิลระดับแรร์.แม่ง. ถ้ามันมีคุณภาพมากกว่าระดับ5แล้วหล่ะก็เขาอาจจะไม่ปล่อยมันมาอย่างง่ายดาย.
ผมเริ่มภาวนาให้มันเป็นสกิลที่ไร้ประโยชน์และราคาถูก หากเขาต้องการที่จะแย่งชิงไปจากผมแล้วหล่ะก็ผมก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากทำใจ.โซอึนกระชากหนังสือมาจากคิมบัมแล้วเธอก็อ่านด้านหน้า หลังจากนั้นเธอก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง.
“นี่คืออะไร? เวล0? มันใช่สกิลบุ๊คแน่นะ? ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ฉันรู้.มันเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นสกิลเวล0.โอ้ ไม่.คุณจะต้องตื่นเต้นแน่ๆ.ฉันขอโทษที่ทำให้นายตกใจ.”
คิมบัมแอบยิ้มในใจขณะที่เขามองมาที่ผม.เขาคงไม่จงใจทำหน้าตาแบบนั้นเพื่อหลอกผมหลอกนะ? อะไรของมัน.
แต่ผมก็รู้สึกขอบคุณที่เขาไม่ขโมยหนังสือจากผม.แม้ว่ามันจะเวล0แต่ใครจะรู้!มันอาจจะทำเงินให้ผมเป็นอย่างมากก็ได้.แม้ว่าหนังสือเวล1จะขายได้ล้านดอลล่าแต่เวล0ผมก็มั่นใจว่าอย่างน้อยก็หมื่นนึงละกัน.คุณอาจจะบอกได้ว่ามันอาจจะมีค่ามากกว่าแร่ที่มันดรอปมาอีก!
“แม้ว่าเราอาจจะไม่ต้องการแต่มันอาจจะจำเป็นสำหรับคนเปิดวาร์ปก็ได้.”
โซอึนยื่นสกิลบุ๊คมาให้ผม. ผมจับมันอย่างระมัดระวังและซ่อนมันใต้เสื้อของผม.
“ไอ้เหี้ยนี่ ไม่ต้องกลัวว่ามีใครจะมาขโมยหนังสือของคุณมึงหรอกนะ.”
“มันอาจจะไม่มีประโยชน์กับคุณ แต่ไม่ได้กับทุกคน.”
ผมได้โอกาศตอกหน้ากลับและผมเป็นคนรู้ว่าโอกาศจะมาตอนไหน.
ผมรู้สึกวิงเวียน.
ผมไม่มีเวลาแม้แต่จะของโทษ.
ตูม!
“…หืม?”
ตูม!
คิมบัมได้คว้าตัวผมก่อนจะระดมกำปั้นใส่หน้าของผม.ผมมองไม่เห็นเขา.ผมได้แต่ครางในขระที่อยู่บนพื้นดิน สัญชาตญาณของผมบอกว่าไม่ควรพูดอะไรตอนนี้.(ก็ไปด่าเขาทามไมอ่า ยังกากอยู่เลย เฮ้อ//คนแปล)
ตูม!
แม่ง.มันรู้สึกเหมือนกับว่ากระดูกของผมจะแหลกหมดทั้งตัว.แมร่งนี่ึคือความแข็งแกร่งของพวกระดับสูง?.ไม่ว่าอย่างไรการที่เขาแข็งแรงในขณะที่มันถูกปล่อยมาจากแขนเล็กๆนั่นมันน่าหัวเราะสิ้นดี.
“คุณจะหยุดได้หรือยัง? มันไม่ทำให้ดูดีขึ้นเลยนะ.”
โซอึนพยายามจะทำให้เขาสงบลง แมร่ง ผมรู้สึกขอบคุณเธอจริงๆ.
“คุณจะอยู่ข้างชาวบ้านนี้?”
“ใช่.”
“ครั้งนึงคุณก็เลยเป็นชาวบ้านเหมือนกัน.”
คิมบัมกลับมาเป็นคนขี้เล่นอีกครั้ง.
“เราไม่รู้ว่าเรากำลังพูดอะไรกันอญู่.”
“โฮ่ ไม่นะ? ผมขอโทษด้วย ผมจำมันไม่ค่อยได้.”
ตูม!
“อึก…”
ผมไม่สามารถกลั้นมันได้อีกแล้วผมครางออกมาเบาๆ.จริงๆแล้วมันรู้สึกเหมือนกับว่าหัวผมจะฉีกออกจากกัน.ไอ้เหี้ยนี่ มันคิดว่ามันเป็นใคร. โซอึนพูดอีกครั้ง
“คุณกำลังพยายามที่จะฆ่าเขา?”
“ผมกำลังคิดอย่างนั้นอยู่.”
“มีหลายคนอยู่ที่นี่.”
“ใครสน.”
คิมบันโต้เถียงในขณะที่เขาพูดเหลวไหล.
อันตรายแล้ว เขาพยายามจะฆ่าฉันจริงๆ? เขาล้อเล่นใช่มั๊ย? เขาคิดว่าเขาฆ่าคนได้อย่างง่ายๆ ไอ้บ้าเอ้ย.
โฮกกกกกก!
ขณะนั้นก็มีเสียงของมอนเตอร์อีกครั้ง ฟังจากเสียงความสูงของมันอย่างน้อยก็500เมตร.มันดูเหมือนว่ามันมีมากกว่า1 ตอนนี้ผมได้ยินเสียงไซเรนอีกครั้ง นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมตำรวจยังมาไม่ถึง.
โซอึนพูดในขณะที่เธอกำลังเสี่ยงต่อความวุ่นวาย.
“ฉันเดาว่ามันมีมากกว่า1 ปล่อยเขาไว้คนเดียว.”
“ชายคนนี้ เป็นคนที่มีโชคจริงๆสำหรับเขา.”
คิมบัมปล่อยหัวของผมในที่สุด.หลังจากที่ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกผมสามารถหายใจได้ทั่วท้องอกีครั้งถ้าเข้าไม่เปลี่ยนใจ.เห็นผมเป็นแบบนั้นคิมบัมหัวเราะอย่างสะใจ ในขณะที่ผมจ้องมองไปด้วยความว่างเปล่า เขาพูด.
“หึหึหึ คุณจะไม่ตาย ไอ้สารเลว มันก็เป็นเพียงการละเล่น หวังว่าคุณคงเข้าใจ.”
“หยุด เราควรจะไปได้แล้ว.”
“รู้แล้วๆ ผมกำลังจะไป บางทีเราอาจจะได้เจอกันอีก ชาวบ้าน.”
คิมบัมกระโดดสูงไปหลายเมตรและวิ่งไปบนอากาศก่อนที่จะหายไปอย่างรวดเร็ว โซอึนชำเลืองมองผมอีกครั้งก่อนที่เธอจะหายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน.
“วู้!.”
Iผมส่ายตัวลุกขึ้นยืน.ขณะที่ผมยืนขึ้นผมรู้สึกว่าหลังผมเจ็บปวดอย่างมาก.มันมีความรู้สึกเหมือนยกับว่าซี่โครงของผมร้าวในขณะที่ด้านหนัาตัวของผมถูกรถชนและหลังของผมก็เกิดจากคิมบัม มันเป็นความรู้สึกที่ไม่ดีนัก.
แต่การทำงานของวันนี้ยังไม่จบ.สถานนีรถประจำทางก็หายไปแล้วแต่รถก็ยังคงต้องทำงานเหมือนเดิม.ผมมองและเคลื่อนไหวไปรอบๆ หลังจากที่ผมเสร็จงานจากวันนี้แล้วผมจะไปโรงพยาบาลหลังจากนั้น สักวันนึง.
---------------------------------
จบ สรุปพระเอกเรื่องนี้เป็นแมงสาบ ปากดี และมองโลกในแง่บวก 555 ฝันดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น